โรงแรมลองบีช ชะอำ - ธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท ยามที่มีธนาคารกรุงไทยเคียงข้าง - มติชน

narasilama.blogspot.com

อย่างที่รู้กันว่ารายได้หลักของไทยมาจากการท่องเที่ยว เมื่อเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การหยุดเดินทางของผู้คนทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างหนักกับธุรกิจโรงแรม และหนึ่งในนั้นก็คือ โรงแรมลองบีชชะอำและธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท ซึ่งลูกค้าหลักเป็นกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งมาใช้ชีวิตอยู่ระยะยาว (Long stay)

น.ส.ปัทมา พิบูลวาณิช กรรมการผู้จัดการ โรงแรมลองบีชชะอำและธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจโรงแรมว่า เดิมทีคุณพ่อของเธอทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง ต่อมาจึงหันมาสร้างคอนโดมีเนียม วิกฤตแรกที่เจอคืออ่าวเปอร์เชีย เมื่อปี 2535 ยอดจองลดลงเหลือ 10 % จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาทำธุรกิจโรงแรม เมื่อ 27 ปีที่แล้ว

“โรงแรมแรกที่เปิดคือ โรงแรมลองบีชชะอำ เริ่มปี 2536 มี 193 ห้องพัก ห้องประชุมเล็ก 1-2 ห้อง  มีทั้งลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสแกนดิเนเวียน นักท่องเที่ยวไทย และลูกค้ากลุ่มสัมมนา หลังจากนั้น 5 ปี ธุรกิจโรงแรงค่อนข้างบูม ลูกค้าเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจขยายส่วนห้องประชุมเพิ่มขึ้น 7 – 8 ห้อง ห้องประชุมขนาดใหญ่รองรับผู้เข้าประชุมได้ถึง 800 คน  

“เมื่อดำเนินการมาได้ 10 กว่าปีแล้ว เรามองเห็นช่องว่างของตลาดและจุดที่ตั้งของชะอำที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน จึงเปิดโรงแรมรีสอร์ทระดับ 4 ดาวในชื่อ ธารามันตรา ชะอำ ขนาด 88 ห้อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ ครอบครัว และกลุ่มที่อยู่พักผ่อนในไทยระยะยาว หรือ Long Stay”

วิกฤตโควิด-19 สถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด

โรงแรมลองบีชชะอำ และธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้จะล่าช้ากว่ากลุ่มโรงแรมที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลักก็ตาม

คุณปัทมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลูกค้ายกเลิกการจองวันละ 5 กรุ๊ป การปรับตัวในเวลานั้นคือ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อัพเกรดโรงแรมให้ลูกค้าลองบีช ชะอำ มาพักที่ธารามันตรา แต่จ่ายในราคาเดิม เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า ถึงอย่างนั้น จำนวนลูกค้ายังคงลดจำนวนลงเรื่อยๆ 

“ต้นเดือนเมษายน จังหวัดเพชรบุรี ประกาศปิดโรงแรมทั้งจังหวัด สิ่งที่กิจการของเรารวมถึงโรงแรมแห่งอื่นๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนักก็คือ รายได้เป็นศูนย์ แต่ค่าใช้จ่ายไม่หยุดเดิน เพราะถึงโรงแรมปิดแต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องหยุดจ่าย มีค่าใช้จ่ายด้านการดูแลรักษา ยังต้องมีเงินใช้หมุนเวียน (Cash flow) การซ่อมแซมงานระบบจ้าง Outsource น้อยที่สุด แต่จ้างพนักงานที่สามารถทำได้มาทำ เพื่อให้พนักงานพออยู่ได้ โดยจ่ายค่าแรงเป็นรายวัน   

“พนักงานส่วนใหญ่ต้องหยุดงานทันที ได้เงินชดเชยการว่างงานจากประกันสังคม บางคนโรงแรมต้องให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม ระหว่างที่เกิดวิกฤตได้สื่อสารกับพนักงานตลอดเวลา เราโชคดีที่มีพนักงานและทีมงานที่ดี ขอเป็นจิตอาสามาดูแลโรงแรมให้ คนละวันสองวัน  รอจนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะถ้าโรงแรมอยู่ได้ พนักงานก็อยู่ได้ เราจะสู้ไปด้วยกัน ประทับใจมาก”

ธนาคารกรุงไทยดูแลใกล้ชิดมาก

นอกจากพนักงานที่ร่วมสู้ไปในวิกฤตหนักในครั้งนี้ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมลองบีชชะอำและธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท ยังบอกเล่าอีกหนึ่งความประทับใจที่ได้รับจากธนาคารกรุงไทยสำนักงานธุรกิจสมุทรสาครว่า โรงแรมเราเกิดได้เพราะการสนับสนุนของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ธุรกิจแรกเริ่มยุคของคุณพ่อจนถึงวันนี้ หลายสิบปีแล้ว วิกฤตในคราวนี้ก็เช่นกัน พนักงานกรุงไทยดูแลเอาใจใส่ รับฟังปัญหา พร้อมสนับสนุนเต็มที่ โดยได้ยืดเวลาชำระเงินต้นให้ 1 ปี 

“สิ่งที่เราได้รับจากกรุงไทยก็คือ เมื่อเราส่งข้อมูลไป กรุงไทยไม่เพิกเฉย พร้อมซัพพอร์ตและช่วยเหลือทันที  ธนาคารเปรียบเหมือนคุณหมอมาเร็วก็จะรักษาเราได้ทันเวลา ใช้บริการกรุงไทยมาตลอด เพราะไม่เคยทิ้งเรา ถึงแม้โควิด-19 จะทำให้เราห่างกัน แต่ธนาคารกรุงไทย ยังอยู่เคียงข้างธุรกิจเราเสมอ ทุกวิกฤติมีโอกาส ถึงแม้จะไม่ใช่โอกาสที่สร้างรายได้ แต่ก็ทำให้มีเวลาคิดทบทวน ได้เห็นความรักความสามัคคีของพนักงานในองค์กร อย่ามองว่าวิกฤติคือ ความโชคร้าย วิกฤตย่อมมีวันสิ้นสุด มั่นใจว่าเราจะต้องผ่านไปด้วยกัน”

ถึงแม้ว่าโควิด-19 จะจบลง แต่ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาได้เลยทันที ซึ่งขณะนี้สิ่งที่โรงแรมสามารถทำได้ก็คือ การปรับตัว การวางแผนรับมือ เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายต้องพร้อมให้บริการทันที ลูกค้าต้องมั่นใจเรื่องความปลอดภัย ขณะนี้เราทำในสิ่งที่เวลาปกติที่มีลูกค้าไม่สามารถทำได้ เช่น ซ่อมแซมระบบไฟฟ้า แอร์  ปั๊มน้ำ เมื่อสถานการณ์กลับคืนมา ต้องพร้อมให้บริการ 

ธนาคารกรุงไทยพร้อมเคียงข้าง ลุยช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อ ในวงเงินรวมกว่า 1.12 ล้านล้านบาท  ด้วย 5 มาตรการ ประกอบด้วย 

• มาตรการที่ 1 ลูกค้าสินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับ และลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 4 เดือน ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากสัญญากู้เดิมนาน 4 เดือน 
• มาตรการที่ 2 ลูกค้าบุคคลและลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่มีเอกสารแสดงรายได้ลดลง พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) นาน 6 เดือน ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากสัญญากู้เดิมนาน 6 เดือน 
• มาตรการที่ 3 ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน อัตโนมัติ 
• มาตรการที่ 4 ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป ที่มีเอกสารแสดงรายได้ลดลง พักชำระหนี้เงินต้นวงเงินสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) สูงสุด12 เดือน ขยายระยะเวลาชำระหนี้สำหรับตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N)และสินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ สูงสุด 6 เดือน 
• มาตรการที่ 5 ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท สนับสนุนสินเชื่อ Soft Loan วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2562 ระยะเวลากู้สูงสุด  5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2% ต่อปี พักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย 6 เดือนแรก  

          ลูกค้าธนาคารติดต่อขอรับความช่วยเหลือในมาตรการต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการได้ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ krungthai.com/covid19 และ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111 

Let's block ads! (Why?)

"ยาม" - Google News
June 03, 2020 at 10:00AM
https://ift.tt/3gN0MNj

โรงแรมลองบีช ชะอำ - ธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท ยามที่มีธนาคารกรุงไทยเคียงข้าง - มติชน
"ยาม" - Google News
https://ift.tt/3clUHUH